|
|
|
หมวด:
องค์กรรัฐและเอกชน(ขาย)
|
|
ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์, Hydrogen Peroxide, H2O2 |
|
รายละเอียด: นำเข้าและจำหน่าย ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์, Hydrogen Peroxide, H2O2, ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์, ไฮโดรเปอร์ออกไซด์, Hydroperoxide ความเข้มข้น 35 percent, 50 percent, สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายขาย บริษัท ไทยโพลีเคมิคอล จำกัด โทรศัพท์ 034854888, 034496284 มือถือ 0824504888, 0800160016 โทรสาร 034854899, 034496285
Hydrogen Peroxide, H2O2, ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์, ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์
ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ (อังกฤษ: hydrogen peroxide) มีสูตรทางเคมีว่า H2O2 เป็นสารประกอบเพอร์ออกไซด์ (สารที่ประกอบด้วยออกซิเจนสองตัวและเชื่อมกันด้วยพันธะเดี่ยว) รูปแบบที่ง่ายที่สุด มีสภาพเป็นของเหลวใส หนืดกว่าน้ำเล็กน้อย มีรสขม ไม่อยู่ตัว ซึ่งสามารถสลายตัวเป็นออกซิเจนกับน้ำ เมื่อเจือจางจะเป็นสารละลายไม่มีสี เนื่องจากไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์สามารถสลายตัวเป็นน้ำได้เมื่อถูกแสงและความร้อน จึงควรเก็บรักษาสารชนิดนี้ไว้ในภาชนะทึบแสง
คุณสมบัติ
โดยปกติไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์จะสลายตัวไปเองอย่างช้า ๆ ซึ่งจะได้ผลิตภัณฑ์เป็นน้ำและแก๊สออกซิเจน แสงสว่างและความร้อนจะช่วยเร่งให้เกิดการสลายตัวเร็วขึ้น ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์มีปฏิกิริยาการสลายตัวดังนี้
นอกจากนี้ หากมีส่วนผสมของโลหะ โดยเฉพาะเหล็ก แมงกานีส ทองแดง จะทำให้เกิดการสลายตัวเร็วยิ่งขึ้น
วิธีการเก็บรักษาไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ ให้เก็บไว้ในที่มืด หรือในภาชนะสีน้ำตาลเข้ม ภาชนะทึบแสง และในที่เย็น นอกจากนี้อาจเติมสารบางชนิดลงไปเล็กน้อย เช่น แอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันไม่ให้สลายตัวเร็วเกินไป
ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ยังมีคุณสมบัติเป็นสารไวไฟ ซึ่งภาชนะบรรจุสารอาจระเบิดได้เมื่อสัมผัสกับอุณหภูมิสูง ในกรณีเกิดเพลิงไหม้ให้ใช้น้ำฉีดเป็นฝอย หรืออาจใช้ผงเคมีแห้ง โฟม หรือคาร์บอนไดออกไซด์
โดยทั่วไปไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์จะอยู่ในรูปสารละลายความเข้มข้นตั้งแต่ 3–90% มักใช้เป็นสารฟอกสีในอาหาร สารทำความสะอาด น้ำยาฆ่าเชื้อ ใช้ฆ่าเชื้อโรคบนผิวหนัง ใช้ล้างภาพสีน้ำมันเก่า ๆ ให้สดใสขึ้น ทำน้ำยาบ้วนปาก และไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์เข้มข้น 90% สามารถใช้เป็นเชื้อเพลิงขับเคลื่อนจรวด
การใช้ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ล้างแผล จะใช้ในฐานะยาที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้ออ่อน ๆ เฉพาะที่ เช่น บาดแผลเล็ก ๆ แต่อาจเกิดผลข้างเคียงจากความเป็นพิษ (Cytotoxic) ซึ่งรบกวนการสมานแผล ทำให้แผลแสบ และระคายเคือง ดังนั้นจึงควรใช้สารชนิดนี้ในกรณีจำเป็นเท่านั้น ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์สามารถใช้ฟอกเส้นผม โดยการนำสารชนิดนี้ไปผสมกับสารชนิดอื่น จนให้สารละลายผสมมีฤทธิ์เป็นด่าง แล้วนำมาฟอกผม จะทำให้เส้นผมมีสีอ่อนลง ง่ายต่อการเปลี่ยนสีผม และยังทำให้สีที่ต้องการย้อมติดกับผมได้ ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ยังมีส่วนผสมอยู่ในน้ำยาโกรกผม ซึ่งในยาย้อมผมไม่ควรมีไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์เกิน 6% แต่ที่พบในท้องตลาดมีตั้งแต่ 3–40% ซึ่งหากใช้โดยไม่มีการเจือจางจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองหนังศีรษะ และเส้นผมอาจถูกทำลายได้ นอกจากนี้ยังใช้เป็นสารฟอกขาวในภาคอุตสาหกรรมฟอกย้อม ซึ่งสามารถใช้ได้ดีกับเส้นใยเกือบทุกชนิด พร้อมทั้งเกิดอันตรายต่อเส้นใยน้อยที่สุด ทำให้ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "ตัวฟอกขาวสากล" (Universal bleaching agent) การฟอกขาวด้วยไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ต้องใช้โซเดียมซิลิเกต (Na2SiO3) ควบคุมการสลายตัว นอกจากใช้ฟอกเส้นใยแล้ว ยังใช้ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ฟอกงาช้าง และขนนก และอาจใช้ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์เป็นสารแอนติคลอร์ (อังกฤษ: antichlor) ซึ่งใช้ทำลายคลอรีนที่ตกค้างบนเส้นใยหลังผ่านการใช้คลอรีนฟอกขาว ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ (hydrogen peroxide) มีสูตรโมเลกุลคือ H2O2 เป็นสารฆ่าเชื้อ (sanitizer) ที่มีฤทธิ์ในการยับยั้งการเจริญของแบคทีเรีย (bacteria) โดยไปทำให้เกิดปฏิกิริยา peroxidation ของลิพิดที่เป็นองค์ประกอบอยู่ในชั้นเยื่อหุ้มเซลล์ของแบคทีเรีย ส่งผลทำให้ความสามารถในการซึมผ่านเข้าและออกจากเยื่อหุ้มเซลล์ของสารต่างๆ เสียไป มีผลกับแบคทีเรียแกรมลบ มากกว่าแบคทีเรียแกรมบวก และยังมีผลกับเชื้อรา (mold) ได้ โดยจะทำให้เกิด oxidizing effect ภายในเซลล์ และจะไปทำลายโครงสร้างโมเลกุลของโปรตีนภายในเซลล์ แบคทีเรียที่สร้างกรดแล็กทิก (lactic acid bacteria) สามารถสร้างไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ในสภาวะที่มีออกซิเจนและสามารถยับยั้งการเจริญของจุลินทรีย์ชนิดอื่นกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการสร้างไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ของแล็กทิกแอสิดแบคทีเรียมีดังนี้
pyruvate + O2 + PO43- pyruvate oxidase acetyl phosphate + CO2 + H2O2
การใช้ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ในอุตสาหกรรมอาหาร
การใช้ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ในอุตสาหกรรมอาหาร ใช้เพื่อวัตถุประสงค์เป็นสารฆ่าเชื้อ (sanitizer) นิยมใช้เพื่อการฆ๋าเชื้อ เครื่องจักรและอุปกรณ์แปรรูปอาหาร และบรรจุภัณฑ์อาหาร (packaging)
ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ นิยมใช้เพื่อการฆ่าเชื้อบรรจุภัณฑ์อาหาร โดยเฉพาะ ระบบ aseptic packaging ความเข้มข้นที่ใช้ ร้อยละ 30-35 บรรจุภัณฑ์ อาจจะถูกจุ่มลงในอ่างสารละลายหรือถูกพ่นละอองฝอยของไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ จากนั้นจะถูกเป่าด้วยลมร้อนอุณหภูมิ 60-125องศาเซลเซียส เพื่อระเหยไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ส่วนเกินออกไป
สารฟอกสีในอาหาร (bleaching agent)
ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์
ชื่อเรียกอื่น Hydrogen dioxide; hydroperoxide; Albone; Hioxyl
CAS No. 7722-84-1
สูตรโมเลกุล H2O2
น้ำหนักโมเลกุล 34.02
จุดเดือด 152 องศาเซลเซียส
คุณสมบัติ ของเหลวที่ไม่คงตัว ไม่มีสี มีรสขม มักทำอยู่ในรูปสารละลายในน้ำความเข้มข้น 3-90 %
การใช้ที่ผิดกฎหมาย เป็นตัว oxidizing ในขั้นตอนการผลิตโคเคน
การใช้ที่ถูกกฎหมาย สารละลายเข้มข้น 90 % ใช้ขับเคลื่อนจรวด (rocket propulsion) สารฟอกสีในอาหาร เป็นตัว oxidizer เป็นสารทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคที่ผิวหนัง ใช้ในทางเภสัชกรรม ทำน้ำยาบ้วนปาก
น้ำยาฆ่าเชื้อ (sanitary lotion)
กฎหมายควบคุม จัดเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 1 ตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535
บทลงโทษ ผู้ใดผลิต นำเข้า ส่งออกหรือมีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุอันตรายชนิดที่ 1 ไม่ปฏิบัติตามประกาศของรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หน่วยงานที่รับผิดชอบ กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม
ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ หรือ H2O2 สามารถผลิตด้วยการรวม H2 + O2 → H2O2 ไฮโดรเจน กับออกซิเจนครับ
ความปลอดภัยนี่คงไม่น่ากังวล เพราะใช้ได้ทั้งบ้วนปาก หยอดหู ล้างแผล เช็ดสะดือ
ถ้ามันสัมผัสกับสารต่างๆ ถูกแสง หรือ ออกซิเจน มันจะสลายตัว (ออกซิไดซ์น่ะ) ได้ H2O + O2
น้ำ กับออกซิเจน
ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์มันย่อยสลายสารอินทรีย์ได้ ก็น่าจะฆ่าราได้ถ้าความเข้มข้นเพียงพอ และตัวมันเองก็ไม่เสถียรถ้าความเข้มข้นน้อย ๆ โดนแสงหน่อยก็สลายหมดแล้ว
เเต่ประสิทธิภาพต่ำ (ความเข้มข้น 3% ที่ใช้ล้างแผล)
เชื้อราไม่เหมือนแบคทีเรียกับไวรัส มันโคตร มหาทนทายาท เนื่องด้วยทั้งวิวัฒนาการของมันและเอนไซม์ที่มีอยู่ในตัวมัน
แก๊สที่เกิดจากการสลายตัวของไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์คือแก๊สออกซิเจน
ราและแบคทีเรียบางชนิดสามารถใช้เอทานอลหรือแอลกอฮอล์เป็นอาหารได้
สปอร์ของราทนสุดๆ แอลกอฮอล์ทำลายไม่ได้ ต้องใช้ไอโอดีน หรือ โพวิดีน
ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ปลอดภัยสำหรับการใช้, สูตรของมันคือH2O2 พอสลายก็ได้น้ำกับออกซิเจน
ราไม่ได้กินแอลกอฮอล์ แต่มันผลิตออกมา เช่นพวกเหล้าที่กินกันน่ะมาจากหมักยีสต์ ซึ่งก็คือรามันสามารถใช้น้ำตาลผลิตเป็นเอทานอล(แอลกอฮอล์ชนิคหนึ่ง)เอาไว้ฆ่าแบคทีเรียที่มาแย่งอาหารมัน เพราะงั้นมันเลยทน
ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์สำหรับการติดเชื้อเล็บเชื้อรา
การใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์สำหรับเชื้อราที่เล็บได้รับการแนะนำโดยคนจำนวนมากเนื่องจากเป็นสารต้านเชื้อราในธรรมชาติ แต่ถ้าไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์มีคุณสมบัติในการป้องกันเชื้อราที่จะสามารถรักษาการติดเชื้อเชื้อราที่เล็บของคุณ เพียงแค่อ่านด้านล่างเพื่อทราบศักยภาพของการรักษานี้
ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ : มันคืออะไร?
ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ที่เป็นของเหลวใสสีสีฟ้าอ่อนที่มีคุณสมบัติออกซิไดซ์ที่แข็งแกร่ง สูตรทางเคมีของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เป็น H2O2
ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์หรือที่รู้จักกันสำหรับคุณสมบัติที่แข็งแกร่งออกซิไดซ์, มีการใช้ต่างๆรวมถึงการเป็นน้ำยาฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ ตัวแทนฟอก, ยาฆ่าเชื้อและเชื้อเพลิงในจรวด เราจำเป็นต้องไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์สำหรับจำนวนของปฏิกิริยาทางเคมีอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นในร่างกายของเรา ในความเป็นจริงน้ำผลไม้คั้นสดจากผักและผลไม้ที่มีไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เกิดขึ้นตามธรรมชาติ
หลายคนค้นพบว่าเมื่อมันมาถึงการรักษาเชื้อราที่เล็บ, ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เป็นตัวเลือกที่ดี
การทำงานของ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ เล็บเชื้อรา?
ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์นี้การรักษาเชื้อราที่เล็บจะขึ้นอยู่กับการรักษาด้วยการออกซิเดชันซึ่งเป็นที่ใช้วิธีการของการเกิดออกซิเดชันเพื่อกำจัดเชื้อราที่เล็บ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ที่มีออกซิเจนร้อยละประมาณ 80 ดังนั้นเมื่อเล็บที่ติดเชื้อจะแช่ในไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เป็นทางออกที่เชื้อราเล็บเชื้อราที่ได้รับการฆ่าเนื่องจากการปล่อยของฟองออกซิเจน sufficienct
วิธีการใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์สำหรับการติดเชื้อเชื้อราเล็บ?
ถ้าคุณได้ตัดสินใจที่จะให้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เล็บรักษาเชื้อราทดลองใช้คุณควรได้รับไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 3% จากการจัดเก็บสุขภาพของคุณในท้องถิ่น คุณไม่ควรข้ามในระดับความเข้มข้น 3% ของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เล็บเชื้อราตั้งแต่วิธีการแก้ปัญหานี้จะทำให้มันไม่ปลอดภัยมากที่จะใช้ มันอาจจะจบลงด้วยผลในการระคายเคืองต่อผิว
มันมักแนะนำให้แช่เท้าหรือมือที่ติดเชื้อในการแก้ปัญหาที่สร้างขึ้นจากชิ้นส่วนที่เท่าเทียมกันของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์และน้ำและปล่อยให้นั่งเป็นเวลาประมาณ 20-30 นาทีวันละสองครั้งตามวันที่ หลายคนได้พบในการปรับปรุงเชื้อราที่เล็บของพวกเขาหลังจากที่ใช้ส่วนผสมของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ด้วยน้ำส้มสายชู
วิธีการรักษานี้อาจทำงานสำหรับบางคน แต่แน่นอนต้องใช้เวลาและความคงทน หากคุณต้องการความช่วยเหลือในความซื่อสัตย์ในการกำจัดเชื้อราที่เล็บไม่ข้ามวันในช่วงไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เล็บเชื้อราการรักษาจนเชื้อราจะเจริญเติบโตสมบูรณ์ออก
คุณควรจะเริ่มสังเกตเห็นการปรับปรุงในสองสามเดือนถ้าคุณจะทำตามไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เล็บติดเชื้อของเชื้อราการรักษาอย่างใกล้ชิด แต่ถ้าเป็นเชื้อราที่เล็บของคุณสามารถแสดงไม่มีการปรับปรุงคุณควรตรวจสอบกับแพทย์ของคุณ
ทำไมไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เชื้อราที่เล็บไม่ทำงานสำหรับคนจำนวนมาก?
ที่ถูกต้อง, ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์สามารถล้างเล็บของคุณของเชื้อรา แต่มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ปัญหาไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ที่สามารถใช้ได้ nooks และมุมของ แผ่นเล็บ และเตียงเล็บ นี้เป็นหลักเนื่องจากเชื้อราสายพันธุ์ตามปกติในพื้นที่เหล่านี้ของเล็บ นอกจากนี้ยังมีไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เล็บเชื้อราวิธีการแก้ปัญหาควรจะใช้สำหรับการแช่เล็บที่ติดเชื้อเป็นเวลา 30 นาทีทุกวันน้อยที่สุดของเดือนมิฉะนั้นการแก้ปัญหาเพียงแนวโน้มที่จะไม่ไปถึงบริเวณที่มีเชื้อราอาศัยอยู่
ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เล็บเชื้อราที่จะใช้เวลานานในการทำงานและในโอกาสเป็นครั้งคราวแก้ไขปัญหานี้ไม่ทำงานตามที่คุณอาจจะมีที่คาดหวัง มันเป็นปกติเพราะคนจำนวนมากไม่อาจจะพยายามแก้ไขปัญหานี้นานและพวกเขาพบมันที่ก่อกวนไปได้ในแต่ละวัน
มีทางเลือกที่ดีกว่า : ลองพวกเขา?
มีวิธีการที่ง่ายและสอดคล้องอื่น ๆ ของการบ่มเชื้อเชื้อราที่เล็บของคุณจะ ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่โดดเด่นที่สุดที่สามารถใช้ได้ทั่วไปประกอบด้วยโซลูชั่นป้องกันเชื้อราที่มีประสิทธิภาพพร้อมกับน้ำมันหอมระเหยจากธรรมชาติอื่น ๆ ที่การขนส่งวิธีธรรมชาติที่เตียงเล็บ
หนึ่งในส่วนผสมที่มีศักยภาพของ ชาต้นไม้น้ำมัน เป็นของขวัญจากธรรมชาติที่โดดเด่นของแม่กับเราทุกคน มันเป็นน้ำมันที่มีมนต์ขลังที่ทำให้มึนงงนับไม่ถ้วนและประโยชน์ต่อสุขภาพเพราะมีธรรมชาติที่ไวรัสมีคุณสมบัติป้องกันเชื้อราและแบคทีเรีย ชาต้นไม้น้ำมันได้อย่างง่ายดายเจาะหนาเล็บที่ติดเชื้อวิปลาสที่ดีกว่าการรักษาเฉพาะอื่น ๆ อีกมากมาย
บางทีอาจจะเป็นไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เล็บเชื้อราการรักษาไม่ได้จะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคุณ แต่คุณอาจคลิกที่ลิงค์ต่อไปนี้เพื่อทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษานี้ : ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์สำหรับเล็บเชื้อรา
Hydrogen peroxide (H2O2) is the simplest peroxide (a compound with an oxygen-oxygen single bond). It is also a strong oxidizer. Hydrogen peroxide is a clear liquid, slightly more viscous than water. In dilute solution, it appears colorless. Due to its oxidizing properties, hydrogen peroxide is often used as a bleach or cleaning agent. The oxidizing capacity of hydrogen peroxide is so strong that it is considered a highly reactive oxygen species. Concentrated hydrogen peroxide, or 'high-test peroxide', is therefore used as a propellant in rocketry. Organisms also naturally produce hydrogen peroxide as a by-product of oxidative metabolism. Consequently, nearly all living things (specifically, all obligate and facultative aerobes) possess enzymes known as catalase peroxidases, which harmlessly and catalytically decompose low concentrations of hydrogen peroxide to water and oxygen.
At one time, the most common household use of hydrogen peroxide was to disinfect wounds, but it is now thought to slow healing by affecting tissue growth through several possible factors. Only a very minute concentration of H2O2 can induce healing, and only if not repeatedly applied. Surgical use can lead to gas embolism formation.
Claims that diluted hydrogen peroxide may be taken orally or even intravenously for treating various sicknesses, including cancer, have been shown to be fraudulent, dangerous, and illegal, using "misbranding" and language explicitly prohibited by the Code of Federal Regulations, and have caused several deaths. An organization of doctors advocating these practices has been shut down by the U.S. Food and Drug Administration (FDA). Another group, with similar publications, has been absorbed into the American College for Advancement in Medicine (ACAM), an organization advocating dangerous and dubious Chelation therapy.
Hydrogen peroxide has been used for creating home-made bombs, and reported to be a major ingredient in the 7 July 2005 London bombings.
Uses
Water treatment
Drinking water treatment
Hydrogen peroxide can be used for cleaning well water or other drinking water sources, by removing odors, organic materials that change the water taste, and the removal of H2S and Iron, while reducing trihalomethanes and haloacetic acids. Hydrogen peroxide can be used to increase or decrease the amount of ozone in drinking water.
Wastewater treatment
Hydrogen peroxide is replacing prechlorination as a way to deal with odors entering wastewater treatment plants
Sulfide oxidation
Hydrogen peroxide has been utilized to minimize hydrogen sulfide (H2S)formation.
The processing of wastewater sludge (or biosolids) can cause the generation of hydrogen sulfide, a poisonous and odoriferous gas. Hydrogen sulfide can also damage equipment and concrete structures.
Sulfides are found throughout the environment as a result of both natural and industrial processes. Most sulfides found in nature were produced biologically (under anaerobic conditions) and occur as free hydrogen sulfide (H2S) – characterized by its rotten egg odor. Biogenic H2S is encountered in sour groundwaters, swamps and marshes, natural gas deposits, and sewage collection/treatment systems. Man-made sources of H2S typically occur as a result of natural materials containing sulfur (e.g., coal, gas and oil) being refined into industrial products. For a variety of reasons – aesthetics (odor control), health (toxicity), ecological (oxygen depletion in receiving waters), and economic (corrosion of equipment and infrastructure) – sulfide laden wastewater must be handled carefully and go through a remediation process before it can be released to the environment. Typical discharge limits for sulfide are < 1 mg/L.
Hydrogen peroxide is a strong oxidizer effective in controlling sulfide and organic-related odors in wastewater collection and treatment systems. It is typically applied to a wastewater system where there is a retention time of 30 minutes to 5 hours before hydrogen sulfide is released. Hydrogen peroxide oxidizes the hydrogen sulfide and promotes bio-oxidation of organic odors.
BOD and COD removal from wastewater
Hydrogen peroxide decomposes to oxygen and water, adding dissolved oxygen to the system, thereby negating some Biochemical Oxygen Demand (BOD). Typical sewage at its first stage has aerobic organisms quickly consuming the oxygen, then dying and decomposing, and anaerobic organisms usually bacteria, set in, creating a toxic environment through their anaerobic digestion. In order to "re-vitalize" the water, various methods of aeration are typically used. Hydrogen peroxide has been used to reduce the BOD and COD of industrial waste-water for many years. While the cost of removing BOD/COD through chemical oxidation is typically greater than that through physical or biological means, there are nonetheless specific situations which justify its use. These include:
Pre-digestion of wastewater which contains moderate to high levels of compounds that are toxic, inhibitory, or recalcitrant to biological treatment (e.g., pesticides, plasticizers, resins, coolants, and dyestuffs);
Pretreatment of high strength / low flow wastewater – where biotreatment may not be practical – prior to discharge to a Publicly Owned Treatment Works (POTW);
Enhanced separation of entrained organics by flotation and settling processes; and
Supply of supplemental Dissolved Oxygen (DO) when biological treatment systems experience temporary overloads or equipment failure.
As indicated by these examples, hydrogen peroxide can be used as a stand-alone treatment or as an enhancement to existing physical or biological treatment processes, depending on the situation.
Nitrogen oxide (NOx) abatement
Nitrogen oxides are major pollutants in the atmosphere, being a precursor to acid rain, photochemical smog, and ozone accumulation. The oxides are mainly nitric oxide (NO) and nitrogen dioxide (NO2) both of which are corrosive and hazardous to health, typically created from the decomposition of organic materials, assisted by anaerobic organisms, or released during the combustion of fossil fuels.
With the use of catalytic converters on automobiles, the initial regulatory focus of controlling of mobile NOx emissions has reached the point where further restriction has become economically impractical. Consequently, the stationary sources of NOx emissions are now being subjected to more stringent standards in many areas of the U.S. Stationary sources include nitric acid manufacturing plants, manufacturers of nitrated materials such as fertilizer and explosives, and industrial manufacturers (metallurgical processors, glass manufacturers, cement kilns, power generators, etc.) where high processing temperatures are used.
Because of the environmental concerns posed by air pollution, much research time and money have been expended to develop methods for controlling NOx emissions. Several 'NOx scrubbing' processes have been developed, using H2O2 as part of the solution, where the nitrogen oxides are converted to nitrate, nitric acid or nitrogen. Hydrogen peroxide is also used to eliminate nitrogen oxide development 'at the source', by reacting with HNO as it is formed, and eliminating its decomposition into NO or NO2.
Pollutants removal
Hydrogen peroxide is one of the most versatile, dependable and environmentally compatible oxidizing agents. The relative safety and simplicity of its use as an oxidizing agent has led to the development of a number of applications in refinery wastewater systems:
Uncatalyzed hydrogen peroxide
The strong oxidizing power of hydrogen peroxide makes it suitable for the destruction of a variety of pollutants. Optimization of conditions using hydrogen peroxide to destroy these pollutants can involve control of pH, temperature and reaction time. No additional additives are required.
Catalyzed hydrogen peroxide
Pollutants that are more difficult to oxidize require hydrogen peroxide to be activated with catalysts such as iron. Catalyzed oxidation can also be used to destroy easily oxidized pollutants more rapidly.
Under acid pH conditions, the addition of iron salts to a wastewater solution activates hydrogen peroxide to generate free radicals, which can attack a variety of organic compounds. Other metal salts and conditions can apply (e.g. in cyanide destruction, a copper catalyst can be used at a pH of 8.5 – 11.5).
Aeration for fish and plants
Horticulture
Some horticulturalists and users of hydroponics advocate the use of weak hydrogen peroxide solution in watering solutions. Its spontaneous decomposition releases oxygen that enhances a plant's root development and helps to treat root rot (cellular root death due to lack of oxygen) and a variety of other pests.
Fish Aeration
Laboratory tests conducted by fish culturists in recent years have demonstrated that common household hydrogen peroxide can be used safely to provide oxygen for small fish. The hydrogen peroxide releases oxygen by decomposition when it is exposed to catalysts such as manganese dioxide.
Bleaching wood pulp
About 50% of the world's production of hydrogen peroxide in 1994 was used for pulp- and paper-bleaching.
Possible alternative to chlorine bleaches
Other bleaching applications are becoming more important as hydrogen peroxide is seen as an environmentally benign alternative to chlorine-based bleaches.[48] However scientific studies have found hydrogen peroxide to be ineffective in certain cases, and generally instruct hospitals, medical institutions, and other locations where public health is monitored, to use chlorine-based bleaches for disinfection.
Mild bleaches in laundry detergents
Other major industrial applications for hydrogen peroxide include the manufacture of sodium percarbonate and sodium perborate, used as mild bleaches in laundry detergents.
Intermediate processes in the chemical industry
It is used in the production of certain organic peroxides, such as dibenzoyl peroxide, used in polymerisations and other chemical processes.
Hydrogen peroxide is also used in the production of epoxides, such as propylene oxide: Reaction with carboxylic acids produces a corresponding peroxy acid. Peracetic acid and meta-chloroperoxybenzoic acid (commonly abbreviated mCPBA) are prepared from acetic acid and meta-chlorobenzoic acid, respectively. The latter is commonly reacted with alkenes to give the corresponding epoxide.
Micro-etching
In the PCB manufacturing process, hydrogen peroxide mixed with sulfuric acid was used as the microetch chemical for copper surface roughening preparation.
Instant steam
A combination of a powdered precious metal-based catalyst, hydrogen peroxide, methanol and water can produce superheated steam in one to two seconds, releasing only CO
2 and high-temperature steam for a variety of purposes.
Bio-decontamination validation
Recently, there has been increased use of vaporized hydrogen peroxide in the validation and bio-decontamination of half-suit and glove-port isolators in pharmaceutical production.
Rapid oxidation for nuclear plant shutdown
Nuclear pressurized water reactors (PWRs) use hydrogen peroxide during the plant shutdown to force the oxidation and dissolution of activated corrosion products deposited on the fuel. The corrosion products are then removed with the cleanup systems before the reactor is disassembled.
Oil and gas exploration fossil analysis
Hydrogen peroxide is also used in the oil and gas exploration industry to oxidize rock matrix in preparation for micro-fossil analysis.
Propylene oxide
A method of producing propylene oxide from hydrogen peroxide has been developed. The process is claimed to be environmentally friendly, since the only significant byproduct is water. Two of these "HPPO" (hydrogen peroxide to propylene oxide) plants came onstream in 2008: One of them located in Belgium is a Solvay, Dow-BASF joint venture, and the other in Korea is an EvonikHeadwaters, SK Chemicals joint venture. A caprolactam application for hydrogen peroxide has been commercialized. Potential routes to phenol and epichlorohydrin utilizing hydrogen peroxide have been postulated.
Therapeutic use
Hydrogen peroxide is generally recognized as safe (GRAS) as an antimicrobial agent, an oxidizing agent and for other purposes by the U.S. FDA.[51] For example, 35% hydrogen peroxide is used to prevent infection transmission in the hospital environment, and hydrogen peroxide vapor is registered with the US EPA as a sporicidal sterilant.
On the other hand many false claims have been made about the therapeutic properties of hydrogen peroxide, some even lethal, as discussed below.
Disinfectant for inanimate objects
Hydrogen peroxide has been used, in sufficient concentrations, to disinfect inanimate objects.[52] As stated above scientific research concluded that chlorine based disinfectants are better used in hospital and other public institutions.
Veterinary practice
Hydrogen peroxide is used as an emetic in veterinary practice.
Toothpaste
Hydrogen peroxide mixed with baking soda and salt is used as a toothpaste, but its use was shown to be no more effective than toothpaste.
Acne treatment
Hydrogen peroxide and benzoyl peroxide are sometimes used to treat acne.[56] This too has been challenged by the medical establishment, after research showed that hydrogen peroxide even at minute quantities is harmful to the healing process. A fundamental difference from benzoyl peroxide is that hydrogen peroxide is not lipid soluble. Benzoyl peroxide selectively concentrates in the follicles and sebaceous glands because of its lipophilic properties, but hydrogen peroxide is much less soluble in lipids and is a much smaller molecule. This allows it to penetrate at any point in the skin and enter damaged cells relatively easily, leading to the aforementioned harm to the healing process.
Disinfecting wounds
Commonly used as treatment for disinfecting wounds, there is a body of evidence, e.g.[3] and many reports since, that the use of large volumes of hydrogen peroxide over substantial tissue areas can lead to a dangerous oxygen embolism (gas embolism). While judicious use on surface wounds can utilize the catalase-caused "fizzing" effect to assist debridement and cleaning of soil from the wound, clinicians are recommended to consult the literature before using peroxide on wounds and tissue cavities. It has also been shown that hydrogen peroxide, even in dilute solutions and minute quantities can slow the healing process on wounds. Further, hydrogen peroxide applied to wounds can impede healing and lead to scarring because it destroys newly formed skin cells.
Cure for cancer
Following the call by alternative medicine advisors for drinking diluted hydrogen peroxide, and using it in various ways such as in shampoo and as an additive to toothpaste, as a treatment to illness in general and cancer in particular, the American Cancer Society states that "there is no scientific evidence that hydrogen peroxide is a safe, effective or useful cancer treatment", and advises cancer patients to "remain in the care of qualified doctors who use proven methods of treatment and approved clinical trials of promising new treatments."
Inhalation, Oral administration and Injection
For treatment of various illnesses, another alternative medical procedure advocated by this group of medical doctors (now banned from publishing their material) is intravenous injection of hydrogen peroxide, which has been linked to several deaths. Also advocated by this group and its followers are oral administration of "dilute quantities" of H2O2, and inhalation of hydrogen peroxide at a concentration of about 1%. These practices have been challenged by the medical establishment as well.
Domestic uses
Bleach
Skin shortly after exposure to 35% H2O2 Bleaching hair Diluted H2O2 (between 3% and 8%) is used to bleach human hair when mixed with ammonium hydroxide. The chemical's bleaching property lends its name to the phrase "peroxide blonde".
Bleaching skin
It is absorbed by skin upon contact and creates a local skin capillary embolism that appears as a temporary whitening of the skin.
Bleaching bones for display
It is used to whiten bones that are to be put on display.
Cleaning blood stains 3% H2O2 is effective at treating fresh (red) blood-stains in clothing and on other items. It must be applied to clothing before blood stains are "set" with heated water. Cold water and soap are then used to remove the peroxide treated blood.
As floor bleach
Hydrogen peroxide can be used to clean tile and grout on floors. It is sometimes recommended to clean with both hydrogen peroxide and baking soda together.
Skunk odor removal
Mixed with baking soda and a small amount of hand soap, hydrogen peroxide is effective at removing skunk odor.
Other uses
Glow sticks
Hydrogen peroxide is used with phenyl oxalate ester and an appropriate dye in glow sticks as an oxidizing agent. It reacts with the ester to form an unstable CO2 dimer, which excites the dye to an excited state; the dye emits a photon (light) when it spontaneously relaxes back to the ground state.
In the Chemical industry
Hydrogen peroxide can be combined with vinegar and table salt to form a substitute for industrial chemicals such as ferric chloride, ammonium persulphate, or hydrochloric acid as a hobbyist's printed circuit board etchant.
Alcoholic beverage industry
Hydrogen peroxide may be used in accelerated aging of alcoholic spirits. Some hobby distillers advocate adding small amounts of hydrogen peroxide to distilled spirits, on the theory that the oxygen released will accelerate the oxidation of compounds that occurs naturally when spirits are aged in somewhat permeable oak barrels. This has not been proven scientifically.
High concentration H2O2 is referred to as High Test Peroxide (HTP). It can be used either as a monopropellant (not mixed with fuel) or as the oxidizer component of a bipropellant rocket. Use as a monopropellant takes advantage of the decomposition of 70–98+% concentration hydrogen peroxide into steam and oxygen. The propellant is pumped into a reaction chamber where a catalyst, usually a silver or platinum screen, triggers decomposition, producing steam at over 600 °C (1,112 °F), which is expelled through a nozzle, generating thrust. H2O2 monopropellant produces a maximum specific impulse (Isp) of 161 s (1.6 kN•s/kg), which makes it a low-performance monopropellant. Peroxide generates much less thrust than hydrazine. The Bell Rocket Belt used hydrogen peroxide monopropellant.
As a bipropellant H2O2 is decomposed to burn a fuel as an oxidizer. Specific impulses as high as 350 s (3.5 kN•s/kg) can be achieved, depending on the fuel. Peroxide used as an oxidizer gives a somewhat lower Isp than liquid oxygen, but is dense, storable, noncryogenic and can be more easily used to drive gas turbines to give high pressures using an efficient closed cycle. It can also be used for regenerative cooling of rocket engines. Peroxide was used very successfully as an oxidizer in World War II German rocket motors (e.g. T-Stoff, containing oxyquinoline stabilizer, for the Me 163B), most often used with C-Stoff in a self-igniting hypergolic combination, and for the low-cost British Black Knight and Black Arrow launchers. In the 1940s and 1950s, the Walter turbine used hydrogen peroxide for use in submarines while submerged; it was found to be too noisy and require too much maintenance compared to diesel-electric power systems. Some torpedoes used hydrogen peroxide as oxidizer or propellant, but this was dangerous and has been discontinued by most navies. Hydrogen peroxide leaks were blamed for the sinkings of HMS Sidon and the Russian submarine Kursk. It was discovered, for example, by the Japanese Navy in torpedo trials, that the concentration of H2O2 in right-angle bends in HTP pipework can often lead to explosions in submarines and torpedoes. SAAB Underwater Systems is manufacturing the Torpedo 2000. This torpedo, used by the Swedish navy, is powered by a piston engine propelled by HTP as an oxidizer and kerosene as a fuel in a bipropellant system.
While rarely used now as a monopropellant for large engines, small hydrogen peroxide attitude control thrusters are still in use on some satellites.They are easy to throttle, and safer to fuel and handle before launch than hydrazine thrusters. However, hydrazine is more often used in spacecraft because of its higher specific impulse and lower rate of decomposition.
Improvised explosive device / home-made bomb precursor
Hydrogen peroxide was the main ingredient in the 7 July 2005 London bombings that killed 52 London Underground and bus passengers. The bomb-making ingredients are reported to be easier to buy than large numbers of aspirin pills. It was used again in other terrorist attacks.
hydrogen peroxide, (H2O2), a colourless liquid usually produced as aqueous solutions of various strengths, used principally for bleaching cotton and other textiles and wood pulp, in the manufacture of other chemicals, as a rocket propellant, and for cosmetic and medicinal purposes. Solutions containing more than about 8 percent hydrogen peroxide are corrosive to the skin.
First recognized as a chemical compound in 1818, hydrogen peroxide is the simplest member of the class of peroxides. Of the several processes of manufacture, the principal ones involve reactions of oxygen from the air with certain organic compounds, especially anthraquinone or isopropyl alcohol
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายขาย
Thai Poly Chemicals Co., Ltd.
บริษัท ไทยโพลีเคมิคอล จำกัด
ที่อยู่36/5 ม.9 แขวง/ตำบลนาดี เขต/อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร รหัสไปรษณีย์74000
Tel.: 034854888, 034496284
Fax.: 034854899, 034496285
Mobile: 0824504888, 0800160016
Website : www.thaipolychemicals.com
Email1 : thaipolychemicals@hotmail.com
Email2 : info@thaipolychemicals.com
|
ภาพที่เกี่ยวข้อง |
|
*คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขนาดจริง |
|
|
|
|
|
|
ข้อมูลเจ้าของประกาศ |
ชื่อ:
thailandchemicals
|
เบอร์โทรศัพท์:
034496284 |
อีเมล์: thaipolychemicals@hotmail.com |
โทรศัพท์มือถือ: 0800160016 |
สถานที่ติดต่อ: 36/5 Moo 9 Nadee Mueangsamutsakhon |
จังหวัด:
สมุทรสาคร |
วันที่่ลงประกาศ: 2 พฤษภาคม 2557 |
วันประกาศหมดอายุ: 16 มีนาคม 2558 |
อ่าน:
348 | ตอบ: 0 |
IP: 101.109.110.xxx |
|
|
|
แก้ไขประกาศ แจ้งลบประกาศ
ต่ออายุประกาศ
|
[แสดงความคิดเห็นต่อประกาศนี้] |
|
ชุบกัลวาไนซ์ |
|
|
|